แผนยุทธศาสตร์โรงเรียนขนาดเล็ก (ปี ๒๕๕๑-๒๕๕๓) กระทรวงศึกษาธิการ, สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
มีเป้าหมาย ดังนี้
ระยะที่ ๑ (ตุลาคม ๒๕๕๐-กันยายน ๒๕๕๑)
จะพัฒนาระบบวางแผน ระบบการเรียนการสอน และทำความตกลงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องมาตรฐาน หลักเกณฑ์ ระเบียบและแนวทางปฏิบัติ โดยจะนำร่องตามรูปแบบการพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพใน ๑๗๕ สพท.(ยกเว้น กทม.) จำนวน ๘๐๐ โรง (สพท.ละ ๑-๓ แห่ง)
ระยะที่ ๒ (ตุลาคม ๒๕๕๑-กันยายน ๒๕๕๒)
จะนำร่องตามรูปแบบการพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพใน ๑๗๕ สพท.(ยกเว้น กทม.) จำนวน ๑,๗๕๐ โรง (สพท.ละ ๑๐ โรง)
ระยะที่ ๓ (ตุลาคม ๒๕๕๒-กันยายน ๒๕๕๓)
จะขยายผลไปยัง ๑๗๕ สพท. ๆ ละ ๑ อำเภอ คาดว่าจะมีโรงเรียนขนาดเล็กเข้าร่วมโครงการ ๔,๐๐๐ โรง จากนั้นจะประมวลผลการดำเนินงาน เพื่อปรับยุทธศาสตร์และเสนอแผนดำเนินการสำหรับโรงเรียนที่เหลือเพื่อเสนอรัฐบาลต่อไป
ยุทธศาสตร์การพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กจะประกอบด้วย ๔ ยุทธศาสตร์ ดังนี้
ยุทธศาสตร์ที่ ๑ พัฒนาระบบวางแผนและการบริหารจัดการ
ประกอบด้วยการพัฒนาระบบวางแผนการจัดตั้งและพัฒนาโรงเรียนในแต่ละ สพท. การพัฒนาระบบข้อมูลและสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ การพัฒนาระบบบริหารจัดการสำหรับโรงเรียนขนาดเล็กที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน และการสร้างแรงจูงใจแก่ผู้บริหารและครูในโรงเรียนขนาดเล็ก
ยุทธศาสตร์ที่ ๒ พัฒนาระบบการเรียนการสอนและการประกันคุณภาพ
ประกอบด้วยการพัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอนสำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก การพัฒนาผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอนการผลิตและใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการเรียนการสอนการนิเทศ ติดตาม กำกับ และการวิจัยและพัฒนาสื่อ รองเลขาธิการ กพฐ. รับผิดชอบ
ยุทธศาสตร์ที่ ๓ เสริมสร้างความพร้อมและความเข้มแข็งของโรงเรียน
ประกอบด้วยการจัดทำมาตรฐานโรงเรียนขนาดเล็ก การปรับปรุงและพัฒนาสถานที่เรียน สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ การจัดอัตรากำลังครู การพัฒนาผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอน การพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน และสนับสนุนงบประมาณ วัสดุ ครุภัณฑ์ที่จำเป็น
ยุทธศาสตร์ที่ ๔ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในการจัดการศึกษา
ประกอบด้วย การพัฒนาคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน การสร้างและพัฒนาเครือข่ายผู้ปกครองให้เข้มแข็ง การส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วม การเตรียมความพร้อมในการมีส่วนร่วมการจัดให้มีระบบและกลไกในการระดมทรัพยากร และการวิจัยและพัฒนารูปแบบการมีส่วนร่วมที่เหมาะสม
บล็อกเพื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารผู้บริหารและครูโรงเรียนขนาดเล็ก สพท.สกลนคร เขต ๒
วันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2552
ยุทธศาสตร์โรงเรียนขนาดเล็ก ตามมคิ ครม.
เรื่อง แผนยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็ก
วันที่มีมติ 27-11-2550
ชุดของครม. ชุดของคณะรัฐมนตรี
เนื้อหา
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม) เป็นประธาน ที่เห็นชอบในหลักการแผนยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็ก ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยให้กระทรวงศึกษาธิการรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ คณะที่ 2 และความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการด้วย
กระทรวงศึกษาธิการรายงานว่า ปัจจุบันกระทรวงศึกษาธิการมีโรงเรียนซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 32,288 โรง ในจำนวนนี้เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก (นักเรียนตั้งแต่ 120 คนลงมา) ถึง 12,828 โรง ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 39.73 ของโรงเรียนทั้งหมด
โรงเรียนขนาดเล็กดังกล่าวส่วนใหญ่ประสบปัญหาคล้ายคลึงกันใน 4 ด้าน คือ
ด้านการบริหารจัดการ
ด้านการเรียนการสอน
ด้านความพร้อมทางปัจจัยของโรงเรียน และ
ด้านการมีส่วนร่วมในการพัฒนาโรงเรียน
กระทรวงศึกษาธิการจึงได้พยายามแสวงหารูปแบบต่าง ๆ เพื่อนำมาแก้ปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการได้ยกร่างยุทธศาสตร์ในการพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กเป็น 4 ยุทธศาสตร์ โดยมีเป้าประสงค์ที่จะวางแผนและบริหารจัดการเพื่อจำกัดจำนวนโรงเรียนขนาดเล็กให้ดำรงอยู่เฉพาะที่มีความจำเป็นและพัฒนาให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพ ดังนี้
ยุทธศาสตร์ที่ 1 พัฒนาระบบวางแผนและการบริหารจัดการ
ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาระบบการเรียนการสอนและการประกันคุณภาพการศึกษา
ยุทธศาสตร์ที่ 3 เสริมสร้างความพร้อมและความเข้มแข็งของโรงเรียน
ยุทธศาสตร์ที่ 4 ส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในการจัดการศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อได้ดำเนินการตามแนวทางที่กำหนดไว้ในแต่ละยุทธศาสตร์ สิ่งที่คาดว่าจะได้รับก็คือ คุณภาพนักเรียนจะสูงขึ้นอันสืบเนื่องมาจากโรงเรียนมีความพร้อมด้านปัจจัย ผู้บริหารโรงเรียนและ ครูผู้สอนปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โรงเรียนขนาดเล็กจะเหลืออยู่ในระบบด้วยจำนวนที่เหมาะสมตามความจำเป็น และดำรงอยู่ได้อย่างเข้มแข็ง ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณในการจัดการศึกษามากขึ้น
วันที่มีมติ 27-11-2550
ชุดของครม. ชุดของคณะรัฐมนตรี
เนื้อหา
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม) เป็นประธาน ที่เห็นชอบในหลักการแผนยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็ก ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยให้กระทรวงศึกษาธิการรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ คณะที่ 2 และความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการด้วย
กระทรวงศึกษาธิการรายงานว่า ปัจจุบันกระทรวงศึกษาธิการมีโรงเรียนซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 32,288 โรง ในจำนวนนี้เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก (นักเรียนตั้งแต่ 120 คนลงมา) ถึง 12,828 โรง ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 39.73 ของโรงเรียนทั้งหมด
โรงเรียนขนาดเล็กดังกล่าวส่วนใหญ่ประสบปัญหาคล้ายคลึงกันใน 4 ด้าน คือ
ด้านการบริหารจัดการ
ด้านการเรียนการสอน
ด้านความพร้อมทางปัจจัยของโรงเรียน และ
ด้านการมีส่วนร่วมในการพัฒนาโรงเรียน
กระทรวงศึกษาธิการจึงได้พยายามแสวงหารูปแบบต่าง ๆ เพื่อนำมาแก้ปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการได้ยกร่างยุทธศาสตร์ในการพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กเป็น 4 ยุทธศาสตร์ โดยมีเป้าประสงค์ที่จะวางแผนและบริหารจัดการเพื่อจำกัดจำนวนโรงเรียนขนาดเล็กให้ดำรงอยู่เฉพาะที่มีความจำเป็นและพัฒนาให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพ ดังนี้
ยุทธศาสตร์ที่ 1 พัฒนาระบบวางแผนและการบริหารจัดการ
ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาระบบการเรียนการสอนและการประกันคุณภาพการศึกษา
ยุทธศาสตร์ที่ 3 เสริมสร้างความพร้อมและความเข้มแข็งของโรงเรียน
ยุทธศาสตร์ที่ 4 ส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในการจัดการศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อได้ดำเนินการตามแนวทางที่กำหนดไว้ในแต่ละยุทธศาสตร์ สิ่งที่คาดว่าจะได้รับก็คือ คุณภาพนักเรียนจะสูงขึ้นอันสืบเนื่องมาจากโรงเรียนมีความพร้อมด้านปัจจัย ผู้บริหารโรงเรียนและ ครูผู้สอนปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โรงเรียนขนาดเล็กจะเหลืออยู่ในระบบด้วยจำนวนที่เหมาะสมตามความจำเป็น และดำรงอยู่ได้อย่างเข้มแข็ง ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณในการจัดการศึกษามากขึ้น
วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2552
สวัสดีปีใหม่ 2552
สวัสดีปีใหม่ 2552
Happy New Year 2009
สุข สดชื่น สมหวังดั่งใจ
แม้มวลหมู่ภัย อย่าได้กล้ำกลาย
ร่ำรวยเงินทองมากมาย
ตั้งแต่ปลาย 2551 ถึง ตลอดปี 2552
เป็นของทุกท่าน..เทอญ
Happy New Year 2009
สุข สดชื่น สมหวังดั่งใจ
แม้มวลหมู่ภัย อย่าได้กล้ำกลาย
ร่ำรวยเงินทองมากมาย
ตั้งแต่ปลาย 2551 ถึง ตลอดปี 2552
เป็นของทุกท่าน..เทอญ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)